ติดฟิล์มลามิน่า บูสต์ชีวิตให้เป็น 1 กับโลกดิจิทัล - Boost Up your Life

ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค ต่างกันยังไง? ทำไมยุคนี้ต้องฟิล์มดิจิทัลบูสต์

SHARE
ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค ส่งผลต่อสัญญาณ WiFi - ผู้หญิงใช้สมาร์ทโฟนในห้องมีสัญญาณดิจิทัลเสถียร
 
คุณเคยสงสัยไหมว่า? ทำไมหลังจากติดฟิล์มกระจกบ้านหรือคอนโดแล้ว สัญญาณ WiFi หรือ 4G/5G ในบ้านกลับแย่ลง? หรือทำไมในบางจุดของบ้าน โทรศัพท์มือถือรับสัญญาณได้แย่มาก? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเรื่อง ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ และรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง "ฟิล์มดิจิทัลบูสต์" ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องฟิล์มกรองแสงในยุคดิจิทัลนี้กันครับ
สนใจหัวข้อไหน เลือกคลิกอ่านได้เลยครับ

6 สาเหตุที่ทำให้สัญญาณมือถือและ Wi-Fi อ่อนแอในบ้าน

ก่อนจะเข้าใจเรื่องฟิล์ม เรามาดูกันก่อนว่าอะไรบ้างที่อาจบล็อกสัญญาณโทรศัพท์มือถือในบ้านของเรา มี 5 ปัจจัยหลักที่ทำให้สัญญาณ 4G, 5G หรือ WiFi อ่อนแอลง

1. วัสดุโครงสร้างและการก่อสร้าง

ผนังคอนกรีต เหล็ก และกระจกบ้านเองก็สามารถขวางคลื่นสัญญาณได้ โดยเฉพาะอาคารสูงที่มีโครงสร้างเหล็กเยอะ จะสร้างเหมือน "กรงฟาราเดย์" ที่บล็อกสัญญาณได้อย่างมาก นี่รวมถึงฟิล์มกระจกที่มีการเคลือบโลหะด้วย หรือกระจก Low-E ซึ่งจะลดทอนสัญญาณโทรคมนาคม เช่น คลื่นวิทยุความถี่ (RF) และไมโครเวฟ ทำให้สัญญาณ 4G/5G ซึ่งเป็นคลื่นสัญญาณวิทยุ Medium Wave ได้รับผลกระทบจากกระจกชนิดนี้ได้เช่นกัน

2. ตำแหน่งของห้องและอุปกรณ์

ห้องที่อยู่ชั้นใต้ดินลงไป หรือห้องที่อยู่บริเวณส่วนกลางสุดของอาคาร มักจะรับสัญญาณได้ได้น้อยกว่าห้องที่อยู่ชั้นบน หรือห้องมีหน้าต่างเปิดออกไปสู่นอกตัวบ้าน อีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบเช่นกัน คือการวาง Wi-Fi Router ครับ หากวางอยู่หลังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ บริเวณมุมห้อง หรือใต้บันได ก็จะสร้าง "จุดอับสัญญาณ” ได้ โดยเฉพาะสัญญาณ 5G ที่แม้จะเร็วและแรง แต่สามารถถูกผนังหรือโครงสร้างตัวบ้านกั้นสัญญาณได้ง่าย (เคยใช่ไหมครับ ที่อยู่ในห้องนอนอินเทอร์เน็ตมาไม่ค่อยถึง แต่พอเดินลงมาจนถึงโถงบันได สัญญาณอินเทอร์เน็ตก็เริ่มกลับมาดีเป็นปกติ)

3. การรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า

เชื่อหรือไม่? อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด ที่ใช้ความถี่เดียวกันกับคลื่นสัญญาณ 2.4 GHz ครับ เช่น เตาไมโครเวฟ โทรศัพท์ไร้สาย หรือลำโพงบลูทูธ เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ทำงานพร้อมกัน ก็อาจจะจะสร้างสัญญาณรบกวนอินเทอร์เน็ตของเราได้ แต่ในยุคนี้ก็มักจะมีตัวเลือกสัญญาณ 5G ที่ใช้คลื่นสัญญาณความถี่ 3.5GHz ขึ้นไป ก็จะไม่ได้รับผลกระทบครับ

4. จำนวนผู้ใช้งานหนาแน่น

ในคอนโดหรือหมู่บ้านที่มี User ใช้สัญญาณจำนวนมากในพื้นที่เดียวกัน จะเกิดการแย่งใช้คลื่นความถี่ ทำให้สัญญาณของทุกคนอ่อนลง ซึ่งถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้ การเพิ่มจุดกระจายสัญญาณ ก็อาจเป็นวิธีการที่เหมาะสมครับ

5. ระยะห่างจากเสาสัญญาณและสภาพแวดล้อม

นักเดินทางสายแคมป์น่าจะเข้าใจปัญหานี้ดีครับ เมื่อคุณไปอาศัยอยู่ในจังหวัดนอกตัวเมือง ที่อยู่ไกลจากเสาสัญญาณมากเท่าไหร่ สัญญาณก็จะยิ่งอ่อนลง ยิ่งในพื้นที่ชนบทที่เสาสัญญาณกระจายน้อย โทรศัพท์มือถือของเราก็จะเหลือสัญญาณไม่กี่ขีด crying รวมถึงสภาพอากาศ เช่น ฝนตกหนัก หรือภูมิประเทศที่มีเขาสูงป่าหนาแน่น ก็ส่งผลต่อคุณภาพสัญญาณเช่นกัน

6. ฟิล์มติดกระจกบ้านบล็อกสัญญาณ

สาเหตุที่ ฟิล์มโลหะแบบเก่า บล็อกสัญญาณได้ เพราะในเนื้อฟิล์มมีอนุภาคโลหะฝังอยู่ แม้จะกันความร้อนจากภายนอกได้ดี (คล้ายกระจก Low-E ที่กล่าวข้างต้น) แต่ผลข้างเคียงคือการทำให้บ้านของคุณเหมือน "กำแพงโลหะ" บางๆ ที่สะท้อนคลื่นวิทยุความถี่กลับออกไปได้ ทำให้สัญญาณ WiFi, 4G/5G, Easy Pass หรือ GPS ไม่สามารถผ่านเข้ามาในบ้านได้เต็มประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าติดฟิล์มโลหะหลายชั้น หรือพื้นที่กระจกใหญ่ ปัญหายิ่งชัดเจนมากขึ้นครับ
 

 
กระจก Low-E และกระจกที่ติดฟิล์มโลหะ (ฟิล์มปรอท)
อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สัญญาณ 5G อ่อนลงได้
ขอบคุณภาพจาก Sciencedirect.com

ปัจจัยที่ทำให้สัญญาณอ่อนลงเมื่อใช้มือถือในรถล่ะ?

สงสัยไหมครับ ว่าถึงแม้ว่าเราจะใช้อินเทอร์เน็ตสัญญาณ 5G แล้ว แต่พอขับรถไปกับ Google Map วิ่งลงใต้ทางด่วน หรือวิ่งใต้สะพาน ทำไมสัญญาณกับกระตุก ช้า ไปจนถึงทำให้เราหลงทางได้เลยทีเดียว
จากข้อมูลอ้างอิงของ Wilson Amplifiers ลามิน่าก็เห็นพ้องและพบข้อมูลตรงกันครับว่า ตัวรถที่ทำจากโลหะและกระจกนี่แหละ มีส่วนที่เป็นฉนวนบล็อกสัญญาณ เช่นกัน และถ้าคุณขับไปในที่ที่สัญญาณอ่อนอยู่แล้ว (สะพานทางด่วนคอนกรีตหลายๆ ชั้น เช่นบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งไปยังใต้ทางด่วน ยิ่งทำให้สัญญาณ 4G 5G กระจายเข้าสู่ห้องโดยสารแทบไม่ได้เลยครับ)
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนขับรถต้องเจอ เช่น
  • ขับออกจากเมืองไปพื้นที่ชนบท เสาสัญญาณห่างกัน ระหว่างทางเลยเป็นจุดอับ
  • ติดรถช่วงชั่วโมงเร่งรีบ คนเยอะแย่งใช้สัญญาณ แม้โทรศัพท์จะแสดง 4-5 ขีดก็โทรไม่ออก หรือกดส่งข้อความไม่ผ่าน
  • ขับผ่านเขา ป่าไผ่ หรือช่วงฝนตกหนัก สัญญาณขาดหาย
  • แบตมือถืออ่อน ทำให้เครื่องต้องใช้พลังงานเยอะขึ้น แบตก็หมดเร็วยิ่งขึ้น
นี่แหละครับที่ทำให้ฟิล์มรถยนต์ที่มีเทคโนโลยี Lamina Digital Boost ถึงได้สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ไม่บล็อกสัญญาณเฉยๆ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สัญญาณ เร็ว แรง ลื่น เสถียร ทำให้ GPS ไม่หลงทาง CarPlay ไม่กระตุก เพลง Spotify ไม่สะดุด แม้จะขับผ่านพื้นที่ที่สัญญาณแย่ก็ตาม

ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค บล็อกสัญญาณต่างกันอย่างไร

เมื่อพูดถึง ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค จริงอยู่ว่าในอดีตประมาณ 5 ปีที่แล้ว ฟิล์มเซรามิคจะบล็อกสัญญาณน้อยกว่าฟิล์มธรรมดาเสมอ แต่ความจริงในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เทคโนโลยีการผลิตฟิล์มกรองแสงก็มีส่วนสำคัญต่อประสิทธิภาพการรับสัญญาณเช่นกัน เรามาดูในรายละเอียดกันครับ
 
ประเภทฟิล์ม การรองรับสัญญาณ คุณสมบัติสำคัญ
ฟิล์มที่มีเทคโนโลยี DigitalBoost  ดีเยี่ยม (95-100%)  ประสิทธิภาพรองรับสัญญาณดิจิทัลสตรีมมิ่งยุคใหม่ เร็ว แรง ลื่น เสถียร สูงสุด
ฟิล์มเซรามิค ดี (80-90%)  รองรับการใช้งานดิจิทัลพื้นฐานและเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมได้ดี
ฟิล์มโลหะทั่วไป  ปานกลาง (50-70%)  อาจมีปัญหาติดขัด ช้า เมื่อใช้อุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน
ฟิล์มที่มีเทคโนโลยี DigitalBoost
การรองรับสัญญาณ ดีเยี่ยม (95-100%)
คุณสมบัติสำคัญ ประสิทธิภาพรองรับสัญญาณดิจิทัลสตรีมมิ่งยุคใหม่ เร็ว แรง ลื่น เสถียร สูงสุด
ฟิล์มเซรามิค
การรองรับสัญญาณ ดี (80-90%)
คุณสมบัติสำคัญ รองรับการใช้งานดิจิทัลพื้นฐานและเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมได้ดี
ฟิล์มโลหะทั่วไป
การรองรับสัญญาณ ปานกลาง (50-70%)
คุณสมบัติสำคัญ อาจมีปัญหาติดขัด ช้า เมื่อใช้อุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน

เปรียบเทียบประสิทธิภาพการรองรับสัญญาณดิจิทัล

ฟิล์มโลหะทั่วไป - ประสิทธิภาพปานกลาง (50-70%) ฟิล์มโลหะหรือที่เรียกกันว่าฟิล์มปรอท จะมีคุณสมบัติ รองรับสัญญาณดิจิทัลระดับปานกลางเท่านั้น เนื่องจากในเนื้อฟิล์มมีอนุภาคโลหะที่สะท้อนและลดทอนสัญญาณ ทำให้คลื่น 4G/5G อาจมีปัญหาติดขัด ช้า เมื่อใช้ฟังก์ชันดิจิทัลโปรแกรมหลายอย่างพร้อมกัน แต่อย่างไรก็ตามหากคุณเลือก ฟิล์มเงาในตระกูล Pop Boost, Genius Boost หรือ Executive Boost ประสิทธิภาพการรองรับสัญญาณจะสูงกว่าฟิล์มโลหะยุคเก่า 20-50%% ครับ
ลามิน่าแนะนำ: ด้วยคุณสมบัติเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฟิล์มโลหะยุคเก่า คือ ที่สามารถกันร้อนได้ดี ให้ลุคเงามันวาว และราคาย่อมเยาว์ ฟิล์มโลหะก็ยังตอบโจทย์ผู้ใช้รถ หรือเจ้าของบ้านหลายๆ ท่านไม่น้อยครับ แต่ข้อจำกัดคือเรื่องการรองรับสัญญาณดิจิทัล หากคุณต้องใช้รถกับ Easy Pass หรือ GPS บ่อยๆ อาจต้องเปิดกระจกหรือใช้วิธีเจาะช่องฟิล์มครับ
ฟิล์มเซรามิค (ฟิล์มสมัยใหม่) - ประสิทธิภาพดี (80-90%) ฟิล์มนาโนเซรามิคอย่าง Lamina Digital Ceramatrix l จากลามิน่า ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก เพราะสามารถใช้งาน Easy Pass ได้โดยไม่ต้องเจาะช่องฟิล์ม และรองรับการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลสมาร์ทโฮมได้ดี อีกด้วย ดังตัวอย่างของ คฤหาสน์หลังนี้ ที่เจ้าของบ้านเลือกติดฟิล์ม Lamina Digital Ceramatrix ให้กับที่อยู่อาศัย และรถยนต์ส่วนตัว ตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัลทุกที่ทุกเวลา ไม่รบกวนสัญญาณ GPS, Easy Pass หรือ WiFi  ยุคใหม่ได้เต็มที่
 

รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่อย่าง BYD เจาะจงเลือกใช้ฟิล์มที่มีเทคโนโลยี Digital Boost ครับ
 
ฟิล์มลามิน่าที่มี Digital Boost - ประสิทธิภาพดีเยี่ยม (95-100%) นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ลามิน่าแตกต่างจากฟิล์มเซรามิคทั่วไปอย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยี Digital Boost ลิขสิทธิ์เฉพาะฟิล์มลามิน่า ที่ ประสิทธิภาพของการรองรับสัญญาณดิจิทัลได้เร็ว แรง ลื่น เสถียร สูงสุด ไม่เพียงแค่รองรับสัญญาณดิจิทัลพื้นฐานพวก EasyPass หรือ GPS ได้สบายๆแล้ว แต่ยังพัฒนามาเพื่อระบบรถยุคใหม่ที่มีทั้ง Infotainment / Entertainment Streaming ต่างๆทั้ง YouTube Netflix รวมถึงรองรับพวก OTA (AutoUpdate Software & Firmware On The Air) ที่ส่วนใหญ่ติดตั้งอยู่บนรถไฟฟ้าอีวียุคนี้ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
 
Lamina Digital Boost จึงกลายเป็นเทคโนโลยีเพื่อชีวิตยุคใหม่ ที่ทำให้ลามิน่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างโดดเด่น เพราะมันเป็นนวัตกรรม ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ ตลอดเวลานำทัพด้วยฟิล์มกรองแสงรุ่นใหม่ล่าสุด อาทิ

ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ พลิกโฉมใหม่แห่งนวัตกรรมฟิล์มกรองแสง

 
เทคโนโลยีเพื่อชีวิตยุคใหม่ ที่ทำให้ลามิน่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ กับ Lamina Digital Boost ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ 24/7 นำทัพด้วยฟิล์มกรองแสงรุ่นใหม่ล่าสุด อาทิ

EV BOOST 70: ฟิล์มเซรามิคอัจฉริยะ
 
ฟิล์มเอไอเซรามิคที่รองรับเทคโนโลยี ADAS เต็มระบบ และบูสต์สัญญาณดิจิทัลได้เต็ม 100% เร็ว แรง ลื่น เสถียร ซึ่งหมายความว่าไม่เพียงแค่ไม่บล็อกสัญญาณ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณอีกด้วย ฟิล์มรุ่นนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ยุคใหม่ที่มีระบบ Infotainment และต้องอัพเดทซอฟท์แวร์เป็นประจำ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla, Ora Good Cat, BYDหรือ MG HS EV

Ceramic Solar Series: ฟิล์มเซรามิคฟิล์มเพื่อบ้านและคอนโด ฟิล์มเซรามิคหรูสู้แดด รองรับ 5G/WiFi-7

 

คลิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
 
สำหรับการใช้งานในบ้านและคอนโด Lamina Ceramic Solar ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี AntiSolar+ และ Lamina Digital Boost ที่รองรับระบบสัญญาณดิจิทัลเจนใหม่ 5G/ WIFI-7 ให้คุณใช้ชีวิตสไตล์ AI Digital Life ได้เต็ม 100%

รวมวิธีเพิ่มความแรงสัญญาณดิจิทัลประจำปี 2025

หากบ้านคุณติดฟิล์มแล้วพบว่าสัญญาณอ่อนลง นี่คือวิธีการยุคใหม่แห่งปี 2025 ที่คุณสามารถลองนำไปปรับใช้ได้จริงครับ
1. เลือกฟิล์มที่รองรับสัญญาณดิจิทัลยุคใหม่
นี่คือวิธีการที่ดี ที่คุณสามารถทำได้ทันที การเลือกฟิล์มที่มีเทคโนโลยี Digital Boost ตั้งแต่แรก จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวเรื่องสัญญาณใหม่ๆ ในภายหลัง และยังเป็นการถนอมรถ ถนอมบ้านจากรังสี UV ตัวร้าย และช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วยครับ
2. ปรับตำแหน่ง W-iFi Router
ย้าย WiFi Router ไปใกล้บริเวณที่ต้องการใช้งาน หลีกเลี่ยงการวางใกล้กระจกที่ติดฟิล์มโลหะ ผนังโลหะ กระจก Low-E หรือผนังอิฐ คอนกรีต เพราะวัสดุเหล่านี้สามารถสะท้อนและบล็อกสัญญาณได้
3. ใช้ Wi-Fi Extender หรือติดตั้ง Mesh Network ภายในบ้าน


ตัวอย่างการทำงานของ Mesh Router
ภาพจาก
Interchopen.com
ใช้ Wi-Fi Repeater หรือ Mesh Wi-Fi เพื่อขยายสัญญาณไปยังจุดอับหรือห้องที่อยู่ไกลจาก Router แต่ถ้าให้ลามิน่าแนะนำ เชื่อว่า Mesh Wi-Fi จะตอบโจทย์กับการใช้งาน และสะดวกที่สุดครับ เพราะสมาชิกในบ้านสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ใน 1 ชื่อ User แล้วสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ทั่วทุกบริเวณบ้าน
แต่ถ้าเป็น Wi-Fi Repeater หรือ Extender (หรือในชื่อ Booster ก็ตามแต่) คุณมีแนวโน้มต้องต่อเครือข่ายกับ Username ใหม่ ทุกครั้งที่เปลี่ยนพื้นที่ๆ WiFi Extender กระจายสัญญาณไปไม่ถึง รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากคลิปของช่อง LDA ได้ครับ สรุปไว้แบบเข้าใจง่ายสุดๆ
4. เปิดหน้าต่างในบางจุด
เปิดหน้าต่างหรือประตูในบางจุด เพื่อให้สัญญาณผ่านได้ง่ายขึ้น หากคุณติดฟิล์มโลหะยุคเก่า อยู่ในช่วงเวลาที่อากาศเริ่มมืดครึ้มไม่เป็นใจ หรือห้องอยู่ในจุดมุมอับ ก็อาจต้องใช้วิธีการ Old-School แบบนี้นะครับ
5. อัพเกรดเป็นเราเตอร์ที่รองรับ Wi-Fi 7
 

WiFi-7 ที่สามารถทำงานพร้อมกันหลาย Bandwidth แบบ Multi-Link
ขอบคุณภาพจาก
tp-link
หรือที่รู้จักกันในชื่อ IEEE 802.11be มีข้อดีทั้งการเพิ่ม Bandwidth ในการส่งข้อมูลสูงขึ้นจาก WiFi6 2 เท่า รองรับการส่งข้อมูลบนคลื่นความถี่ระดับ 6GHz และลามิน่าได้ข่าวว่า เทคโนโลยีใหม่นี้ มีประสิทธิภาพในการทะลุสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า (เพราะทำงานพร้อมกันได้หลาย Bandwidth 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz) หากมีคลื่นความถี่ช่วงใดถูกกั้นสัญญาณ ก็จะสามารถให้คลื่นสัญญาณอื่นๆ (โดยเฉพาะ 2.4 GHz) วิ่งผ่านต่อ เพื่อให้คุณเชื่อมต่อได้อย่างไม่มีสะดุด

สรุป

การเปรียบเทียบ ฟิล์มธรรมดา กับ ฟิล์มเซรามิค ในเรื่องการรองรับสัญญาณดิจิทัลนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของประเภทฟิล์มเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต การเลือกฟิล์ม Lamina Digital Boost จะช่วยให้คุณได้ทั้งการกันร้อนที่ดีเยี่ยม และการรองรับเทคโนโลยีดิจิทัลในยุคปัจจุบันและอนาคต ปรึกษาเพิ่มเติมเรื่องการเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของลามิน่าได้เลยครับ

1. https://www.bbc.co.uk/reception/help-guides/everything-else/how-does-bad-weather-affect-my-television
2.
https://www.wilsonamplifiers.com/blog/reasons-why-cell-phone-signals-suddenly-go-bad/
3. https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2352710223005958


สอบถามข้อมูลฟิล์มรถยนต์ลามิน่าเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-422-2345
Facebook: m.me/LaminafilmsHQ
@LINE: https://lin.ee/ot1aDYm